10 สุดยอดสถานที่เที่ยวที่อลังการสุดๆในญี่ปุ่นที่หากคุณไปแล้วต้องร้องว๊าว!! (พร้อมพิกัด)

Photo by Staff

การเดินทางมาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นบางทีอาจจะรู้สึกว่าไปที่ไหนดี คิดไม่ออก มันตัน และควรจัดที่เที่ยวที่ไหนให้เข้ากับรูทของเรา หรือบางคนอาจจะบอกว่าอะไรอยู่ที่ไหน หรือควรไปไหนก่อนก็อาจจะจับต้นชนปลายกันไม่ถูก วันนี้เรามาดูกันมั๊ยว่าที่ๆ น่าเดินทางไปเยือนถ้าไปถึงญี่ปุ่นแล้ว สิ่งที่เค้าเรียกว่าสุดยอดและน่าไปที่ถ้าใครไปเห็นแล้วถูกใจแน่ๆ หรือว่าอาจจะต้องตะลึงในความงาม ร้องว๊าวกันเลยทีเดียวก็อาจจะเป็นได้นะ

วันนี้เราจัดมาให้ 10 จุดลองดูกันมั๊ยว่าในทริปการเดินทางของคุณจะมีที่เหล่านี้อยู่หรือเปล่า ถ้ายังไม่มี ก็น่าจะรีบจับใส่ไปสักที่ก็จะดีไม่น้อยเลค่ะ

1. ภูเขาไฟฟูจิ บริเวณทะสาบคาวากุชิ (Kawaguchiko)

Photo by Staff                                             Photo by Staff

ที่ภูเขาไฟฟูจิ หรือที่หลายคนเรียกติดปากตามคนญี่ปุ่นฟูจิซังนั้นมีหลายต่อหลายจุดที่สามารถชมความงามของภูเขาไฟที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกนี้ ถ้าจะบอกว่าไปฟูจิแล้วจะกว้างมากๆ แต่สถานที่ๆ เห็นว่าจะทำให้คนที่มาเที่ยวชมไม่ผิดหวังได้มากที่สุดก็คงไม่พ้น หนึ่งในทะเลสาบทั้งห้ารอบภูเขาไฟฟูจิอย่างที่บริเวณทะเลสาบความวากุชิ ยิ่งถ้าในวันสภาพอากาศดีๆ แล้วละก็เชื่อได้ว่าหลายต่อหลายคนต้องตะลึงในความงามของที่นี่แน่นอน

การเดินทางมาเที่ยวภูเขาไฟฟูจินั้นเหมาะสำหรับทุกๆ วัย เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่งดงามพร้อมกับการออนเซ็นที่หลายต่อหลายคนติดใจ จึงทำให้ใครๆ ก็เดินทางไปเที่ยวที่นี่ได้

การเดินทาง จากสถานีรถไฟ Kawaguchiko มีรถ Retro bus วิ่งวนบริเวณทะเลสาบ ค่าโดยสารสำหรับท่านที่ต้องการขึ้นไม่จำกัดราคาผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน อ่านแผนที่การเดินรถได้ที่นี่

ที่พักแนะนำสำหรับการพักในคาวากุชิโกะนั้น ขอแนะนำให้พักที่ Wakakusa no Yado Maruei เพราะเป็นห้องพักที่มีบริการสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม อีกทั้งยังมีห้องพักที่มีอ่างโอเพ่นแอร์ให้ห้องพักในบางห้องด้วย





2. ศาลเจ้าโทโชคุ นิกโก้

ที่นี่นับเป็นอีกจุดที่ทำให้เราสนุก และระทับใจไปกับความอลังการณ์งานสร้างของวัดและศาลเจ้าได้เป็นอย่างดีในทุกๆ ฤดูกาล ที่นี่มีสถาปัตยกรรมที่ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นมกดกโลกถึง 2 แห่ง แต่แน่นอนสำหรับนิกโก้แล้ว คนจะนิยมมาชมที่ศาลเจ้าโทโชคุมากๆ เนื่องจากที่นี่มีลิง 3 ตัวที่มีชื่อเสียง ลิงนั้นทำท่าปิดปาก ปิดหู และปิดตา นั่นหมายถึงไม่พูด ไม่ฟัง และไม่มองในสิ่งที่ไม่ดี
การมาเที่ยวชมนิกโก้นั้น เหมาะกับทุกๆ วัย แต่บางครั้งต้องฟิตร่างกายสักเล็กน้อยเพราะอาจจะต้องเดินเยอะ และมีบันไดเยอะอีกด้วย

ค่าเข้าชมและตั๋วรถบัส สามารถซื้อตั๋วที่เป็นมรดกโลกที่สามารถเข้าชมได้ถึง 3 วัดในราคา 1,300 เยน และซื้อบัตร Nikko Tobu Bus เพิ่ม 500 เยน

เวลาทำการ 8.00 - 16.00 น.
การเดินทาง โดยสารรถไฟสาย Tobu หรือ JR และลงที่สถานี Nikko จากนั้นโดยสารบัส Nikko Tobu เพื่อไปท่องเที่ยวในเขตนี้

ที่พักแนะนำ ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาท่องเที่ยวในนิกโก้มักจะเลือกพักที่ คินุกาว่าออนเซ็น เนื่องจากที่นี่มีน้ำแร่ออนเซ็นที่ส่งตรงมาจากแหล่งน้ำและมีแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วยที่ Kinugawa Plaza Hotel ก็เป็นอีกที่ๆ น่าเข้าพักด้วยวิวด้านนอกที่สวย





3. พระใหญ่ไดบุสึ คามาคุระ (The Great Buddha of Kamamura)

ใครที่ยังไม่เคยได้มาสักการะระใหญ่ไดบุทสึที่คามาคุระ แนะนำว่าให้มาลองดู ที่นี่มีพระองค์ใหญ่ตั้งอยู่ตระหง่านด้วยความสูงถึง 13.35 เมตร ซึ่งองค์พระเป็นรูปหล่อสัมฤทธิ์ สามารถเข้าชมด้านในได้ ที่นี่ยังเป็นเมืองที่ติดกับทะเล จึงทำให้หลายต่อหลายคนมักนิยมมาท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีรถไฟโบราณสายเอ็นโนะเด็นคอยให้บริการวิ่งในชุมชม ถึงแถวๆ วัด และศาลเจ้าต่างๆ

ที่นี่เป็นสถานีที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับทุกๆวัย

ค่าเข้าชม 190เยน
ค่าเข้าชม 8.00 - 16.00น.
การเดินทาง โดยสารรถไฟสาย Enoden จากสถานี Kamakura ลงที่สถานี Hase ราคา 190 เยน

ที่พักแนะนำ Kamakura Prince Hotel เป็นโรงแรมที่ชมวิวด้านนอกได้อย่างสวย ทำเลที่ตั้งของที่นี่สะดวกสบาย





4. กำแพงหิมะ ทาเทยาม่า

Photo by Staff

ที่นี่จะมีตั้งแต่กลางเดือน พค.-ปลายมิย. เท่านั้น การเดินทางในเส้นทางอัลไพล์รูทนั้นหลายต่อหลายคนมีจุดหมายที่เขื่อน หรือบางคนก็มีจุดหมายที่ต้องการจะชมกำแพงหิมะ ที่นี่ต้องเดินทางด้วยรถเคเบิ้ลคาร์ โรฟเวย์ต่างๆ หลากหลายขั้นตอน เพื่อวิวทิวทัศน์ที่อลังการณ์อย่างกำแพงหิมะที่ทาเทยาม่านั้น ความลำบากของเส้นทางจึงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับหลายต่อหลายคนนัก

ที่นี่เหมาะกับผู้ที่มสุขภาพแข็งแรงพร้อมจะเดินขึ้นที่สูง และเป็นผู้ที่ไม่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจเนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูงจึงมีอากาศน้อย ก่อนการเดินทางควรฟิตซ้อมร่างกายไว้ล่วงหน้า

ค่าเข้าชม จะถูกกหนดเป็นแพ็กเกจเหมารวมซึ่งสามารถเลือกเดินทางแบบเต็มคอร์ส หรือครึ่งคอสก็ได้ มีให้เลือกหลากหลายราคาตั้งแต่ 4,300 เยนขึ้นไป

การเดินทาง จากสถานี Tateyama โดยการขึ้นเคเบิ้ลคาร์ → จาก Bijodaira โดยสารบัสผ่าน Midagahara → จาก Murodo กำแพงหิมะ จากนั้นขึ้นบัสราง (trolley bus) → Daikanbo กระเช้าโรฟเวย์ → Kurobedaira เคเบิ้ลคาร์ → Kurobeko → เดินที่เขื่อน Kurobe Dam ประมาณ 500 เมตร

ที่พักแนะนำ ขอแนะนำให้พักที่สถานีโทยามะที่ Daiwa Roynet Hotel Toyama





5. หมู่บ้านหลังคากัซโซ่ ชิราคาวาโกะ

Photo by Staff                   Photo by Staff

ที่นี่ถูกแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก ความน่ารักของอาคาร และวัฒนธรรมอันดั้งเดิมที่ยังคงอยู่ของที่นี่นั้นยังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหลังโดยการช่วยเหลือกันของชาวบ้าน การฉีดน้ำล้างหมูบ้าน หรือการจัดเทศกาลดูไฟก็ยังเป็นที่สนใจมาโดยตลอด

ค่าเข้าชม ไม่เสียค่าผ่านประตู
การเดินทาง โดยสารบัสของบริษัทโนฮิ เจอาร์ และเมเทซึได้จากทั้งสถานีนาโกย่า, ทาคายาม่า และเกโระออนเซ็น ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง

ที่พักแนะนำ ส่วนใหญ่แล้วท่านที่มาเที่ยวที่นี่จะนิยมไปพักที่ทาคายาม่า เนื่องจากที่พักในชิรากาว่าโกะมีน้อยจึงอาจจะไม่พอรองรับนักท่องเที่ยว สำหรับ ฮิดะ ฮานาซาโตะโนะยุ ทาคายามะ โออุอัน (Takayamaouan) เป็นโรงแรมที่สะดวก และมีออนเซ็นชั้นดาดฟ้าให้เราได้ผ่อนคลายอย่างเพลิดเพลิน





6. ฟุราโนะ ฟาร์มโทมิตะ ฮอกไกโด

Photo by Staff                      Photo by Staff

จะว่าไปแล้วที่ญี่ปุ่นมีฟาร์ม หรือสวนดอกไม้มากมายที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่หลงไหลในความงามของดอกไม้ต้องยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาชม แต่จะว่าไปแล้วที่ไหนจะมีคนที่ต้องการมาเยือนได้มากเท่ากับที่นี่เห็นจะไม่มีอีกแล้ว ในฤดูใบไม้ผลิจนเรียกได้ว่าร้อนๆ ของกลางเดือนกรกฎาคมของทุกๆ ปี นักท่องเที่ยวจำนวนมาก แห่แหนกันมาเพื่อจะชมทุ่งลาเวนเดอร์ของที่นี่ให้ได้

ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีทุกวัย และทุกรสนิยม แต่นักท่องเที่ยวสุภาพสตรีจะมีปริมาณที่มากกว่าเล็กน้อย
ค่าเข้าชม ไม่มีค่าบริการ

เวลาทำการ 8.00-17.00 น.
การเดินทาง การเดินทางในช่วงนี้จะมีรถไฟพิเศษ Furano Lavender Express ที่ออกเดินทางจากสถานี JR Sapporo เพื่อไปลงที่สถานี Furano จากนั้นโดยสารรถไฟ Norokko ไปยังฟาร์ม

ที่พักแนะนำ แนะนำที่พักสไตล์คันทรี และทิวทัศน์รอบๆ สวยงามอย่างที่ New Furano Prince Hotel





7. ปราสาทมัตสึโมโต้ จังหวัดนากาโน่

ที่ปราสาทแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นปราสาทที่มีความสง่างามอยู่ไม่น้อยเลย เพราะโดยส่วนใหญ่เราจะเห็นปราสาททั่วๆ ไปมีสีขาว หรือเทา แต่ที่นี่มีตัวปราสาทเป็นสีดำ ซึ่งได้ถูกขนานนามว่าปราสาทอีกา และมีสะพานสีแดงตัดข้ามสระน้ำด้านหน้าตัวปราสาท แต่ปัจจุบันหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2011 นั้นทำให้สะพานมีส่วนที่ชำรุดหลายจุดปัจจุบันจึงไม่สามารถเปิดบริการให้ข้ามได้
ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบสถาปัตยกรรม เพราะนอกจากจะมีปราสาทสวยๆ แล้วเมืองนี้ยังมีสถาปัตยกรรมหลากหลายดีไซน์มากๆ

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 410 เยน เด็ก 200 เยน
เวลาทำการ 8.30 - 17.00 น.
การเดินทาง จากสถานีชินจุกุ เราจะไปกันด้วยรถไฟสาย Super Atsusa โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ครึ่ง

ที่พักแนะนำ โรงแรม Dormy Inn Matsumoto ที่นี่เดินทางจากสถานีได้อย่างสะดวกสบายและใกล้ๆ กับโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย





8. ลานสกีในเอชิโกะ ยูซาว่า

Photo by Staff                      Photo by Staff

ที่จังหวัดนีงาตะมีลานสกีมากมายที่สามารถเห็นวิวได้อย่างสวยงาม แต่วันนี้เราเอาภาพ หนึ่งใน 5 ลานสกีชื่อดังของจังหวัดมาให้ชมเพื่อให้เห็นกันชัดๆ ว่าภาพจากบนลานสกีแห่งนี้เมื่อมองลงมาด้านล่างแล้วอาจจะทำให้เราต้องตกตลึงในความงามของที่นี่ได้ที่นี่มีชื่อว่าลานสกี อิวาปาระ

ค่าผ่านประตู เสียค่าบริการเฉพาะค่าโดยสารลิฟท์
การเดินทาง จากสถานี Echigo-Yuzawa (เดินทางมาด้วยรถไฟชินกันเซ็นโจเอซึ) ด้วยการโดยสารแท็กซี่ประมาณ 700 เยน

ที่พักแนะนำ ที่ใกล้กับลานสกีมีโรงแรม Naspa New Otani ที่มีออนเซ็นให้แช่ได้อย่างสบายใจอีกด้วย





9. วัดคินคาคุจิ เกียวโต

ด้วยตัวอาคารสีทองที่ตั้งอยู่โดยมีสระน้ำที่สามารถมองเห็นเงาของอาคารสีทองได้อย่างชัดเจนและยิ่งในวันที่อากาศดีแน่นอนท่านจะรู้สึกว่าสิ่งนี้คือใช่สำหรับการเดินทางมาชม เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการปรับปรุงอาคารในส่วนของการทำสีทองเพิ่มเติม ปัจจุบันจึงยิ่งทำให้ที่นี่ดูสวยและอลังการณ์มากย่ิงขึ้น
ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว ทุกวัย ทุกสไตล์

เครดิตภาพ Bella Matsujun
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 300 เยน
เวลาทำการ 9.00-17.00 น.

การเดินทาง : การเดินทางในจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของเกียวโตแนะนำให้ซื้อตั่วพาส 1 วันราคา 500 เยนซึ่งสามารถซื้อได้ที่ข้างสถานีเกียวโตด้านหอคอยเกียวโตที่จุดบริการท่องเที่ยว จากนั้นให้โดยสารสาย 101, 102, 204, 205 จากสถานีรถไฟเกียวโตเพื่อไปลงที่บัสสต๊อป Kinkakuji-michi จากนั้นเดินไปยังวัดโดยใช้เวลาประมาณ 4 นาที

ที่พักแนะนำ โรงแรมที่สะดวกสบาย ใกล้สถานีอย่าง โรงแรม Kyoto Tower Hotel เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในจุดนี้





10. โตเกียวทาวเวอร์

ถึงแม้ในญี่ปุ่นจะมีหอคอยสร้างขึ้นมาในแต่ละเมืองมากยิ่งขึ้น หรือกระทั่งที่โตเกียวเองยังมีหอยคอยที่สูงกว่าใหญ่กว่าอย่างโตเกียวสกายทรีออกมาก็ตาม ที่นี่ยังคงมีหลายต่อหลายคนเดินทางไปชมวิวด้านบนเพื่อมองโตเกียวได้จากมุมสูงในทุกๆ ฤดู ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หรือฤดูใบไม้ผลิที่มีสีสันสดใส ทั้งส้ม และชมพูแล้วยิ่งทำให้เหมือนเป็นพรมสีสดๆ ปูให้คนดูได้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่นี่เหมาะกับทุกวัย และเหมาะกับคนที่ชอบความสูง อิสระในการมองทิวทัศน์ต่างๆ

ค่าเข้าชม 820 ที่ความสูง 150 เมตร
เวลาทำการ 9:00 - 22:00 น.
การเดินทาง โดยสารรถไฟสาย Toei Oedo เพื่อลงที่สถานี Akabanebashi และเดินเพียง 1 นาที

ที่พักแนะนำ โรงแรมโตเกียว พรินซ์ (Tokyo Prince Hotel) ทั้งสะดวกสบาย บริการเป็นเลิศ





รีวิวนี้น่าจะมีประโยชน์มากๆ เลยสำหรับมือใหม่นะคะ เพราะได้รวมที่เด็ดๆ ไว้แล้ว และคิดว่าคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอีกหลายต่อหลายคนที่หาที่เที่ยวรูทใหม่ๆ คงมีสักที่ที่อาจจะยังไม่เคยไป ลองไปกันดูนะคะสำหรับวันนี้ บ๊ายบายลาไปด้วยปราสาทที่ชอบแอบชื่นชอบส่วนตัว มัตสึโมโต้โจคร้าาาา



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น